จริงๆแล้วการที่เราจะเลือกใช้ตัวไหนนั้นให้เราดูที่นามที่เราจะแสดงความเป็นเจ้าของว่านามนั้นเป็นเอกพจน์
หรือ พหูพจน์ ถ้านามนั้นเป็นเอกพจน์ให้เราเติม ‘s แต่ถ้านามนั้นเป็นพหุพจน์ที่ลงท้ายด้วย s เราก็แค่เติม
‘ เราไปเฉยๆก็จบแล้วล่ะ เช่น The dog’s tail is short
/ หมาตัวนั้นหางของมันสั้น แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีหมาหลายตัวเราก็จะใช้
The dogs’ tail is short / หมาเหล่านั้นหางของพวกมันสั้น
อย่างงี้แหล่ะ ต้องระวังให้ดีนะครับถึงแม้ว่าการออกเสียงจะเหมือนกันแต่ถ้าเขียนต่างกันความหมายจะเปลี่ยนครับ
ส่วนถ้าเราใช้กับชื่อเฉพาะของคนนั้นเราสามารถใช้ได้ทั้งสองแบบครับ
อย่าเช่น James’ car is that / รถของเจมส์คันนั้น
หรือจะเป็น James’s car is that / รถของเจมส์คันนั้น เป็นต้น
มีข้อยกเว้นเกี่ยวกับนามพหุพจน์ที่ไม่ได้เปลี่ยนรูปโดยการเติม
s แต่เป็นการเปลี่ยนรูปของนามเช่น man เป็น men หรือ child เป็น children
เราจะแสดงความเป็นเจ้าของโดยการเดิม ‘s เหมือนกับนามเอกพจน์ทั่วไป
เช่น The children’s toys are massy / ของเล่นเด็กๆกระจัดกระจายเต็มไปหมด
เป็นต้น
กฎอีกอย่างหนึ่งที่ควรรู้สำหรับการใช้
Apostrophe ในการแสดงความเป็นเจ้าคือเมื่อเจ้าของเป็นพหุพจน์ที่เชื่อมด้วย
and ดังประโยคเหล่านี้
That
is Thomas and Jason’s house.
Thomas’s
and Jason’s houses are on the same street.
|
คุณเห็นความแตกต่างของสองประโยคนี้ไหม๊ครับ
ถูกต้องครับ! ประโยคแรกคือเราใช้ ‘s
ที่นามตัวสุดท้ายตัวเดียว
เพราะทั้งสองคนเป็นเจ้าของบ้านหลังเดียวกัน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราหมายถึงคนละหลัง
เราจะใส่ ‘s ที่นามทุกตัวครับ จุดที่เราสามารถสังเกตได้มีอยู่หลายจุดครับ
เช่น กริยาเปลี่ยนจาก is เป็น are หรือ
house เติม s เป็น houses เป็นต้นครับ
Post a Comment