กรณีแรก ถ้าประโยคหลักเป็น Present tense กริยาของประโยคที่อยู่หลังคำเชื่อม as
if จะต้องเป็น Past tense เสมอ เช่น
She acts as if she were an actress. / เธอวางมาดราวกับว่าเธอเป็นดารา
|
He speaks as if he saw me at the party. / เขาพูดราวกับว่าเห็นผมในงานเลี้ยง
|
They cry as if they met a ghost. / พวกเขาร้องราวกับว่าเห็นผี
|
หมายเหตุ : กรณีของ Past tense นี้หลัง as
if ที่ต้องใช้กริยา verb to be จะต้องเป็น “were”
เสมอ จำหลักการของ if-sentence สำหรับเงื่อนไขที่ไม่เป็นจริงได้ป๊ะ
นั่นแหล่ะ
กรณีที่สองถ้าประโยคหลักเป็น Past tense กริยาของประโยคที่อยู่หลังคำเชื่อม as
if จะเป็น Past tense หรือ Past
perfect tense ก็ได้ เช่น
She acted as if she
|
were
|
an actress.
|
had been
|
||
He spoke as if he
|
saw
|
Me at the party.
|
had seen
|
||
They cried as if they
|
met
|
a ghost.
|
had met
|
จากตัวอย่างเราจะเห็นว่าเราสามารถเลือกใช้ได้ทั้งสองโครงสร้างก็เลือกใช้เอาตามสะดวกก็แล้วกันนะครับ
อย่างลืมนำไปใช้นะครับจะได้เป็นการทบทวนให้จำได้ใช้คล่อง
รับรองว่าเพื่อนๆ เราต้องแปลกใจ!!
Post a Comment