นักเรียนถูกลงโทษ!
จากประโยคนี้เราคุ้นเคยกันดี แต่พอเราเรียนภาษาอังกฤษเรากลับไม่ค่อยจะเข้าใจ Passive Voices!! เพราะอะไร เพราะว่าไวยากรณ์ภาษาไทยไม่ได้เน้นเรื่องของ Active Voice กับ Passive voice ให้เห็นเด่นชัดสักเท่าไหร่ (หรือมีอยู่ตอนที่อาจารย์ภาษาไทยสอนเรื่องนี้เราหลับในห้องไม่แน่ใจ)
ทั้งๆที่ในการใช้ในชีวิติประจำวันเราก็ใช้โครสร้างในลักษณะของ Passive voice ในภาษาไทยเยอะอยู่เหมือนกัน ผมเริ่มสนใจ Passive Voice ตอนทำงานใหม่ๆ
ช่วงนั้นบริษัทจ้างอาจารย์สอนภาษาอังกฤษมาสอนพิเศษ (ในเวลางาน)
มีพี่คนหนึ่งถามอาจารย์เกี่ยวกับ Passive Voice พี่ถามเรื่องอะไรเนี่ย? ผมถามเค๊าแบบงงๆ!
Voices คือรูปแบบประโยคที่บ่งบอกให้เรารู้ว่าประธานของประโยดเป็นผู้กระทำกิริยานั้น (Active Voice) หรือเป็นผู้ถูกกระทำด้วยกิริยานั้นกระทำ (Passive Voice)
Passive Voice ในภาษาอังกฤษนั้นมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะในภาษาเขียน เพราะ Passive Voice จะทำให้รูปประโยคของเราไพเราะ และดูกระชับ (ซึ่งตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมติด Passive Voice ไปซะแล้วในการเขียน) เนื่องจากว่า Active Voice เป็นอะไรที่เราใช้เป็นประจำอยู่แล้วผมจึ่งไม่อยากจะเขียนในบทความนี้มาก ผมขอเน้นที่ Passive Voice ก็แล้วกัน
โครงสร้างประโยค Passive Voice ประกอบด้วย
ซึ่งหลักการในการสร้าง Passive voice ผมขอยกยอดไปบทความหน้าก็แล้วกัน โพสต์นี้ผมขอพูดคร่าวๆก่อนว่าทำไมเราจึงจำเป็นต้องใช้ Passive Voice
เพราะว่าในบางครั้งเราไม่จะเป็นต้องกล่าวถึงประธาน (หรือไม่อยากกล่าวถึงอ้นนี้แล้วแต่ครับตราบใดที่ผู้ฟังกับผู้พูดเข้าใจกันว่าใครเป็นผู้กระทำ) เช่น The thief was arrested last night. ใครจับขโมยคุณป๊ะ ไม่ใช่ก็ต้องเป็นตำรวจอยู่แล้วหรืออีกนัยหนึ่ง เราไม่สนใจว่าใครจับ ใครจับไม่สำคัญเราไม่ต้องการบอก อะไรเทือกๆนี้ เราจะใช้ Passive Voice หรือ
ถ้าผู้กระทำในประโยคนั้นเป็น They, We, Someone, No one หรือ People เราจะใช้ Passive Voice เช่น We are praying the monk. (Active Voice) เราจะนิยมใช้ The monk is being prayed by us. (Passive Voice) แทน
ครับ Passive Voice ไม่ไกลตัวแล้วใช่ไหม๊ครับ เราสามารถหยิบฉวยมาใช้ได้ทุกโอกาสดังนั้น โพสต์หน้าเราจะไปดูหลักเกณฑ์ในการทำ Passive Voice ซึ่งเหมือนกับที่อื่นๆ ผมจะเทียบเคียงกับโครงสร้าง Active Voice ซึ่งเป็นโครงสร้างที่เรารู้จักกันดี ใน How to be “Passive Voice”?
Voices คือรูปแบบประโยคที่บ่งบอกให้เรารู้ว่าประธานของประโยดเป็นผู้กระทำกิริยานั้น (Active Voice) หรือเป็นผู้ถูกกระทำด้วยกิริยานั้นกระทำ (Passive Voice)
Passive Voice ในภาษาอังกฤษนั้นมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะในภาษาเขียน เพราะ Passive Voice จะทำให้รูปประโยคของเราไพเราะ และดูกระชับ (ซึ่งตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมติด Passive Voice ไปซะแล้วในการเขียน) เนื่องจากว่า Active Voice เป็นอะไรที่เราใช้เป็นประจำอยู่แล้วผมจึ่งไม่อยากจะเขียนในบทความนี้มาก ผมขอเน้นที่ Passive Voice ก็แล้วกัน
โครงสร้างประโยค Passive Voice ประกอบด้วย
Subject + Verb to be + Past Participle
(V.3) + by + Object
|
ซึ่งหลักการในการสร้าง Passive voice ผมขอยกยอดไปบทความหน้าก็แล้วกัน โพสต์นี้ผมขอพูดคร่าวๆก่อนว่าทำไมเราจึงจำเป็นต้องใช้ Passive Voice
เพราะว่าในบางครั้งเราไม่จะเป็นต้องกล่าวถึงประธาน (หรือไม่อยากกล่าวถึงอ้นนี้แล้วแต่ครับตราบใดที่ผู้ฟังกับผู้พูดเข้าใจกันว่าใครเป็นผู้กระทำ) เช่น The thief was arrested last night. ใครจับขโมยคุณป๊ะ ไม่ใช่ก็ต้องเป็นตำรวจอยู่แล้วหรืออีกนัยหนึ่ง เราไม่สนใจว่าใครจับ ใครจับไม่สำคัญเราไม่ต้องการบอก อะไรเทือกๆนี้ เราจะใช้ Passive Voice หรือ
ถ้าผู้กระทำในประโยคนั้นเป็น They, We, Someone, No one หรือ People เราจะใช้ Passive Voice เช่น We are praying the monk. (Active Voice) เราจะนิยมใช้ The monk is being prayed by us. (Passive Voice) แทน
ครับ Passive Voice ไม่ไกลตัวแล้วใช่ไหม๊ครับ เราสามารถหยิบฉวยมาใช้ได้ทุกโอกาสดังนั้น โพสต์หน้าเราจะไปดูหลักเกณฑ์ในการทำ Passive Voice ซึ่งเหมือนกับที่อื่นๆ ผมจะเทียบเคียงกับโครงสร้าง Active Voice ซึ่งเป็นโครงสร้างที่เรารู้จักกันดี ใน How to be “Passive Voice”?
Post a Comment