กาล (เวลา อันนี้ใส่เองฮุๆ) หรือ Tense เป็นเรื่องรูปแบบของกิริยาในประโยคที่จะแสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์นั้นเกิดเมื่อไหร่(เกิดขึ้นแล้ว
กำลังเกิดขึ้น หรือว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต)
จะเห็นว่าเรื่องของกาลในภาษาอังกฤษมีความสำคัญมากเช่น ถ้าสมมุติว่าเราใช้อนาคตกาล
มาบอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น Prime Minister will endorse
agreement to Byanmar. จะทำให้เข้าใจผิดทันทีว่า นายกยังไม่ได้ลงนาม
ยิ่งถ้าเราใส่ Adverb of time เข้าไปอีกงงตายเลย เช่น Prime
Minister will endorse agreement to Byanmar yesterday. แล้วจริงๆเหตุการณ์มันเกิดขึ้นยังวะเนี่ย!จะให้ถูกต้อง
Prime Minister endorsed agreement to Byanmar
yesterday ประโยคแรกทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิด
และประโยคที่สองทำให้ผู้อ่านงง ส่วนที่ถูกต้องคือประโยคที่สามเห็นไหม๊ครับ
เรื่องกาล หรือ Tense นี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเหมือนกันเพราะโครงสร้างของกิริยาต่างๆ
ไม่ได้เหมือนเดิม(มีการผันกิริยา) เช่น will endorse ในประโยคอนาคตกาลหรือ endorsed
ในประโยคอดีตกาล ในขณะที่ในภาษาไทยเราแค่ใช้คำว่า ลงนามแล้ว หรือ
จะลงนาม ก็จบแล้ว แต่ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะเขียนอย่างละเอียดโดยแยกเป็นกาลๆ
ไปในแต่ละโพสต์คลิก Subcribeบล็อกของเราครับ
แต่ในบทความนี้ผมอยากสรุปโครงสร้างของรูปแบบ Tense ที่ใช้กันทั้ง
12 tenses ก่อนครับ
Present tense
Tense
|
โครงสร้าง Tense
|
|
Sub + V 1
|
|
Sub + is/am/are + V (ing)
|
|
Sub + has/have + V 3
|
|
Sub + has/have + been + V (ing)
|
Past tense.
Tense
|
โครงสร้าง Tense
|
|
Sub + V 2
|
|
Sub + was/were + V (ing)
|
|
Sub + had + V 3
|
|
Sub + had been + V (ing)
|
Future tense.
Tense
|
โครงสร้าง Tense
|
|
Sub + will/shall + V 1
|
|
Sub + will/shall + be + V (ing)
|
|
Sub + will/shall + have + V 3
|
|
Sub + will/shall + have + been + V (ing)
|
ก่อนที่เราจะเริ่ม update โพสต์อื่นเกี่ยวกับ
Tenseผมอยากให้คุณ print ตารางนี้ออกมาก่อนครับแปะไว้ในที่ๆจะเอามาใช้ได้สะดวก
ข้าง Partition โต๊ะทำงานของคุณก็ได้